เจาะลึก“แร่ใยหิน”แฝงภัยร้ายอยู่หรือไม่?



มีนักวิชาการ ผู้ประกอบการบางส่วน ออกมารณรงค์ให้ประชาชนยุติการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ผลิตจากแร่ใยหินนั้น

วันพฤหัสบดี 31 กรกฎาคม 2557 เวลา 08:20 น.


จากที่มีนักวิชาการและผู้ประกอบการบางส่วน ออกมารณรงค์ให้ประชาชนยุติการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ผลิตจากแร่ใยหินในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้น ทว่ามองอีกแง่จะเห็นอะไรน่าสนใจ

กว่า 50 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยนำเข้าแร่ใยหินสีขาว หรือ ไครโซไทล์ เพื่อนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตวัสดุก่อสร้างและส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ กระเบื้องมุงหลังคาแบบลอนลูกฟูก , อุตสาหกรรมประเภทซีเมนต์ , ผ้าเบรก , ผ้าคลัตช์ , เสื้อผ้าป้องกันไฟหรือความร้อน , กระดาษอัด , พลาสติกที่มีแอสเบสทอสเป็นส่วนประกอบ , ท่อระบายน้ำ , กระเบื้องปูพื้น , ฝ้าเพดาน , ฝาผนัง , ฉนวนกันความร้อน , ท่อน้ำร้อน , หม้อไอน้ำ และพลาสติกขึ้นรูปต่าง ๆ เป็นต้น

และเมื่อไม่นานมานี้ มีกลุ่มนักวิชาการและผู้ประกอบการบางส่วนออกมาร้องเรียนให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมยุติการใช้โดยสิ้นเชิง โดยอ้างถึงความปลอดภัย อันตรายที่ผู้บริโภคและแรงงานในโรงงานจะได้รับ จากแร่ใยหินไครโซไทล์

เคยสงสัยไหมว่าแร่ใยหินอันตรายจริงหรือไม่? แล้วมีความจำเป็นต่ออุตสาหกรรมมากน้อยแค่ไหน?

แร่ใยหิน หรือ ASBESTOS เป็นกลุ่มของแร่ซิลิเกตที่เกิดตามธรรมชาติ มีลักษณะเป็นผลึกเส้นใยยาว โดยแร่ที่ได้รับความนิยมนำมาใช้ทางการค้ามีจำนวนทั้งสิ้น 6 ชนิด สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ แอมฟิโบล และเซอร์เพนไทน์ โดยกลุ่มแอมฟิโบล แบ่งย่อยออกได้เป็น 5 ชนิด ได้แก่ ครอซิโดไลท์, อะโมไซท์, ทรีโมไบท์, แอนโธฟิลไลท์ และแอคทิโนไลท์ ส่วนกลุ่มเซอร์เพนไทน์ ก็ได้แก่ ไครโซไทล์ หรือไวท์ แอสเบสทอส หรือที่เราเรียกว่าแร่ใยหินสีขาว

แร่ใยหิน มีคุณสมบัติเฉพาะตัวสามารถดูดซับเสียงได้ดี ทนทาน แข็งแกร่ง ทนไฟ-ความร้อน ต้านทานไฟฟ้า และสารเคมี ที่สำคัญมีราคาย่อมเยา สามารถนำมาใช้เป็นฉนวนไฟฟ้าในเตาไฟฟ้าและฉนวนความร้อนในอาคาร เหมาะสำหรับทำกระเบื้องมุงหลังคา ผ้าเบรก และท่อน้ำ หากนำมาผลิตเป็นกระเบื้องหลังคาสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 25-30 ปี ซึ่งต่างจากหลังคาที่ผลิตจากวัสดุ PVA ที่มีอายุการใช้งานเพียง 5 ปีเท่านั้น เนื่องจากโมเลกุลมีลักษณะแบบอะแทกติก ไม่มีความเป็นผลึก จึงมีลักษณะอ่อนนิ่มมากจนเป็นของเหลวข้นหนืด สีขุ่นขาว เมื่อแห้งจะใสเนื่องจากความอ่อนนิ่มจนมีลักษณะเป็นของเหลวข้นหนืด จึงไม่สามารถหล่อขึ้นรูปด้วยวิธีแม่พิมพ์ใดๆได้ สามารถย่อยสลายได้โดยวิธีชีวภาพ และติดไฟได้คล้ายกระดาษ นอกจากนี้ยังสามารถละลายในน้ำได้

ปัจจุบันประเทศไทยยังมีการอนุญาตนำเข้าแร่ใยหินสีขาว หรือ ไครโซไทล์ หรือ ไวท์ แอสเบสทอส เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต แต่จะต้องแจ้งและขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนแร่ใยหินชนิดครอซิโดไลท์ ได้ห้ามนำเข้าแล้วเพราะถือว่าเป็นชนิดที่มีอันตรายมาก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์ที่ยืนยันได้ว่า ในประเทศไทยมีผู้ที่ป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดที่เกิดจากแร่ใยหินสีขาว หรือ แร่ไครโซไทล์แม้แต่รายเดียว

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.blackpool.gov.uk/ , http://en.wikipedia.org/wiki/Asbestos

http://www.dailynews.co.th/
Share on Google Plus

About แบ่งปันสาระ

แบ่งปันสาระ แหล่งรวมข่าวสาร,บันเทิง,สาระน่ารู้,Life Style , สุขภาพ,โรคภัย,สมนไพร,
    Facebook
    Blogger Comment