โผล่'รายที่7' ลูกใช้มือถือ เล่นคุกกี้รัน เจอบิลอ่วม




เหยื่อเกมมือถือ “คุกกี้รัน” โผล่รายที่ 7 เป็นหญิง ม่าย ชาวสวน จ.พังงา โดน บิลเรียกเก็บเงินกว่า 1.1 แสนบาทตกใจแทบช็อก โร่เข้าแจ้งความตำรวจก่อนขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว เผยลูกชายวัย 9 ขวบ เอาโทรศัพท์มือถือไปเล่นเกมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กลุ้มจัดไม่รู้จะเอาเงินจากไหนไปใช้หนี้ ผู้สื่อข่าวพาเข้าพบ ผจก. เอไอเอส สาขาตะกั่วป่า ต่อสายด่วนถึงผู้บริหารส่วนกลางสั่งยกเลิกที่เรียกเก็บเกินมาทั้งหมดทันที เหลือจ่ายเพียงค่าบริการรายเดือนเท่านั้น เจ้าตัวรีบเปลี่ยนจากเหมาจ่ายรายเดือนมาเป็นระบบเติมเงินทันที หวั่นเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

กรณีมีผู้เล่นเกม “คุกกี้รัน” หรือเกมอื่นๆ ในแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือ สั่งซื้อของในเกมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ภายหลังโดนบิลเรียกเก็บเงินจำนวนมหาศาลตกเป็นข่าวครึกโครม ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้วทั้งสิ้น 6 ราย รายแรกที่ จ.สุพรรณบุรี โดนเรียกเก็บเงิน 203,150.71 บาท รายที่สอง จ.พิจิตร 18,239.67 บาท รายที่สาม จ.เพชรบุรี 163,405.55 บาท รายที่สี่ จ.ตาก 596,398.51 บาท รายที่ห้า จ.พิษณุโลก 238,968.79 บาท และรายที่หก จ.อุดรธานี 70,190.05 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมดกว่า 1.3 ล้านบาท โดยผู้บริหารบริษัทเอไอเอสผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้ออกมาชี้แจงว่าจะยกเว้นค่าสินค้าและบริการดังกล่าวให้กับลูกค้าทุกรายที่ใช้งานโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ล่าสุด มีผู้ตกเป็นเหยื่อรายที่เจ็ดที่ จ.พังงา โดนบิลเรียกเก็บเงินกว่า 1 แสนบาท โดยเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางวีณา จัดจริง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 2 บ้านท่าสาร ต.เหล อ.กะปง จ.พังงา เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากได้รับบิลแจ้งค่าโทรศัพท์มือถือประจำเดือน มิ.ย.57 เป็นเงินทั้งสิ้น 115,969.24 บาท สร้างความตกใจให้กับตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนใช้โทรศัพท์มือถือเครือข่ายเอไอเอส แพ็กเกจ iSmart เดือนละ 299 บาท แต่เมื่อดูในบิลแนบท้ายกลับมีค่าสินค้าและบริการเรียกเก็บเพิ่มขึ้นมาถึง 3 หน้ากระดาษ เป็นยอดเงินรวมกว่าแสนบาท

จากการสอบถามนางวีณาเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับตนมีลักษณะเหมือนที่เป็นข่าวอยู่ในช่วงนี้ คือลูกชายวัย 9 ขวบ ได้นำโทรศัพท์มือถือของตนไปใช้แล้วเข้าไปเล่นเกม สอบถามลูกชายยอมรับว่าเข้าไปเล่นเกมคุกกี้รันและเกมดรากอน โดยเข้าใจว่าเป็นเงินจำนวนไม่มาก ตอนนี้ไม่รู้จะไปพึ่งใครเพราะทุกวันนี้อยู่กันเพียงสองคนแม่ลูก สามีเสียชีวิตไปแล้ว มีอาชีพทำสวนรายได้เล็กๆน้อยๆ ไม่มีเงินไปชำระหนี้ได้ เพื่อนบ้านแนะนำให้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.กะปง ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ตนจะมาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวเพื่อเป็นสื่อกลางแจ้งให้ผู้บริหารบริษัทเอไอเอสรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนและครอบครัว ทุกวันนี้เป็นทุกข์และกลุ้มใจมากไม่รู้จะทำอย่างไร

ต่อมาผู้สื่อข่าวพานางวีณาพร้อมลูกชายไปเข้าพบ น.ส.นูรีศา หมาดอาดำ ผู้จัดการศูนย์บริการเอไอเอส สาขาตะกั่วป่า พร้อมนำบิลเรียกเก็บเงินไปขอความช่วยเหลือ โดย น.ส.นูรีศาได้โทรศัพท์แจ้งไปยังผู้บริหารเอไอเอสส่วนกลางทันที ได้รับคำตอบว่าให้ยกเลิกค่าสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นมาทั้งหมด คงจ่ายเฉพาะค่าแพ็กเกจรายเดือนเท่านั้น สร้างความดีใจให้กับสองแม่ลูกเป็นอย่างมากถึงกับยกมือไหว้ขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ จากนั้นนางวีณาได้ยกเลิกระบบแพ็กเกจรายเดือน เปลี่ยนเป็นระบบเติมเงินแทนเพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นมาอีก

http://www.thairath.co.th/content/432185
Share on Google Plus

About แบ่งปันสาระ

แบ่งปันสาระ แหล่งรวมข่าวสาร,บันเทิง,สาระน่ารู้,Life Style , สุขภาพ,โรคภัย,สมนไพร,
    Facebook
    Blogger Comment