ตะลึงชาวประมงพื้นบ้านกระบี่จับปูยักษ์ได้ น้ำหนักมากถึง 2.3 กิโลฯ วัดก้ามและลำตัวรวมกันยาวกว่า 2 ฟุต เป็นปูหน้าขาว หรือปูทองหลาง ชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า ?ปูโด๊บ? คนจับปูเผยเมื่อเย็นวานไปยกโป๊ะ เจอปูติดมาด้วย แต่ขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ไม่เคยจับได้มาก่อน ขณะที่ประมงจังหวัดชี้ปัญหาการลักลอบทำลายป่าชายเลนลดน้อยลง ทะเลสมบูรณ์ขึ้น ทำให้สัตว์น้ำเจริญเติบโต ได้ดี
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายประดิษฐ์ จันทร์ทอง นายกอบต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ ว่า ชาวประมงในพื้นที่ ต.คลองประสงค์ จับปูทะเลขนาดใหญ่ได้ เป็นที่แตกตื่นและน่ายินดีของชาวบ้าน เพราะปัจจุบันแทบจะจับปูขนาดใหญ่ไม่ได้มานานมากแล้ว
จากนั้น จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายสมพงศ์ คลองรั้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 3 ต.คลองประสงค์ ชาวประมงผู้จับปูยักษ์ได้ จากการตรวจสอบพบเป็นปูหน้าขาว หรือปูทองหลาง เป็นตัวผู้ วัดความยาวลำตัวและก้ามรวมกันได้กว่า 2 ฟุต และชั่งน้ำหนักได้ถึง 2.3 กิโลกรัม โดยนายสมพงศ์ขังปูตัวดังกล่าวไว้ในถัง
นายสมพงศ์ กล่าวว่า เมื่อเย็นวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ไปยกโป๊ะน้ำตื้นที่บริเวณคลองทะลุเพื่อเอาปลาที่ติดโป๊ะ แต่เมื่อยกขึ้นมาปรากฏว่าพบปูหน้าขาวติดขึ้นมาด้วย แต่มีขนาดใหญ่มาก ไม่เคยจับได้ตัวขนาดนี้มาก่อน จึงนำกลับมาบ้านตรวจดูเป็นตัวผู้ ก่อนจะชั่งน้ำหนักและวัดความยาว ตั้งใจจะเก็บปูเอาไว้ ไม่ฆ่ากินเป็นอาหาร จะอนุบาลและเลี้ยง เก็บไว้
ส่วนนายประดิษฐ์ นายกอบต.คลองประสงค์ กล่าวว่า ปูหน้าขาวหรือปูทองหลาง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าปูโด๊บ อาศัยอยู่บริเวณปากแม่น้ำกระบี่ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านพบบ่อยครั้ง แต่ตัวไม่ใหญ่มากนัก ส่วนตัวที่จับได้ครั้งนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในรอบปี เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันจับปูหน้าขาวได้เช่นกัน เป็นตัวเมีย น้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม เล็กกว่าตัวนี้ สาเหตุที่ปูตัวใหญ่มาก น่ามาจากความอุดมสมบูรณ์ของทะเล โดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำ ที่ผ่านมาชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ ไม่ใช้เครื่องมือทำลาย เช่น อวนรุน
ด้าน นายแสน ศรีงาม ประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ท้องทะเล จ.กระบี่ มีความอุดมสมบูรณ์ และการลักลอบทำลายป่าชายเลนลดน้อยลง นอกจากนี้ ยังห้ามเครื่องมือทำประมงที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ชาวประมงพื้นบ้านและสมาคมชาวประมง จ.กระบี่ ร่วมมือกันเฝ้าระวังเรืออวนรุน อวนลาก ไม่ให้เข้ามาในเขตหวงห้าม ส่วนปูหน้าขาวอาศัยอยู่ในป่าชายเลนที่สมบูรณ์ และมีมากในป่าชายเลน จ.กระบี่ และเนื่องจากช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา การบุกรุกป่าชายเลนน้อยลง จึงทำให้สัตว์น้ำเจริญเติบโตตามธรรมชาติ ไม่มีผู้คนไปรบกวน ในอนาคตหากชาวกระบี่รักษาธรรมชาตินี้เอาไว้ ก็จะพบสัตว์ขนาดใหญ่ออกมาให้ได้เห็นกันอีก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE1UYzRNekl3Tmc9PQ%3D%3D§ionid
Facebook
Blogger Comment