ลูกค้าร้านอาหารโวยเจอข้อความเขียนด่าบนบิล
ลูกค้าโพสต์ภาพบิลร้านอาหารมีข้อความเขียนด่า ด้านพนักงานอ้างเขียนด่าเพื่อน ขณะที่ชาวออนไลน์วิจารณ์แซ่ด
เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์ชื่อดัง pantip.com ชื่อเด็กนอนหนาว แชร์ข้อมูลหลังจากได้รับบริการที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง โดยใช้ชื่อกระทู้ว่า "ถ้าไปทานอาหารนอกบ้านแล้วโดนเขียนในบิลจากพนักงานว่าไอ้ sard (
มีภาพยืนยัน).. คุณจะรู้สึกอย่างไร??"
พร้อมทั้งขยายรายละเอียดว่าตน(ผู้โพสต์) ได้ยืม Log in ของเพื่อนมาโพสต์ เพื่ออยากให้สังคมรับรู้เเละตัดสินใจ ในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครอบครัวของตนได้ไปรับประทานอาหารที่อาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ที่มีการให้บริการเป็น 2 แบบคือบุฟเฟต์และแบบ a la carte (อาหารประเภทจานเดี่ยว) ซึ่งทางครอบครัวเลือกสั่งทั้ง2 ประเภทมาทานด้วยกัน และมีการใส่รายละเอียดอาหารส่วนอื่นๆ เพิ่ม ซึ่งพนักงานก็พยายามอธิบายว่าอาหารบางประเภทไม่สามารถจัดมาให้ได้เนื่องจากเป็นนโยบายของร้าน จนกระทั่งบิลเก็บเงิน มาถึงและมีการเขียนด้วยลายมือ ที่มีข้อความว่า "ไอ้....เรื่องเยอะ" ตนและสามีจึงเรียกคุยกับผู้จัดการ และนำเรื่องมาแชร์ลงในอินเตอร์เน็ต เพื่อให้สังคมรับรู้
สำหรับเรื่องราวในกระทู้มีรายละเอียดดังนี้
"วันที่ 27 กันยายน 2557 ดิฉันและครอบครัว ได้ทานอาหารร้านเเห่งหนึ่ง ดิฉันได้เลือกที่จะทาน a la carte เนื่องมาจากไม่ได้ต้องทานเยอะค่ะ จึงตัดสินใจนั่งด้านนอกและสั่งชุดชาบู ชาบู กับพนักงานชายท่านนึงตามภาพค่ะ เพราะว่าลูกสาวอยากทานเส้นอุด้งค่ะ แต่พนักงานชายท่านนั้นแจ้งว่าชุด a la carte มีบริการแค่สุกี้ญี่ปุ่นเท่านั้นและสุกี้ไม่มีเส้นอุด้งมีแต่เส้นบุก.. ดิฉันเข้าใจดีเลยสั่งชุดสุกี้ญี่ปุ่นหมู 2 ชุดค่ะแต่ขอแค่ผักกาดขาว เห็ดเข็มทอง และหากเป็นไปได้ขอเส้นอุด้งเพิ่ม แต่ทางพนักงานยืนยันไม่สามารถให้บริการเส้นอุด้งได้ ดิฉันจึงขอสั่งเส้นอุด้งเพิ่มพิเศษและยินดีจ่ายเงินเพิ่มค่ะ และพนักงานชายท่านนั้นก็ตกลงค่ะ
**ดิฉันขอยอมรับนะคะว่าเรื่องมากในการสั่ง (เข้าใจจริง ๆ ว่าการสั่งนอกเหนือจากเมนูสำหรับร้านญี่ปุ่นบางร้านเป็นสิ่งลำบากค่ะ แต่ถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็บอกก็ได้ ดิฉันรับได้ค่ะ)*
พอสั่งเสร็จก็ไม่มีอะไรนะคะ แต่พอพนักงานชายท่านนั้นยกหม้อสุกี้มา ก็ไม่ได้ตามที่สั่ง (ถูก 1 หม้อ) จึงขอเปลี่ยน 1 หม้อเป็นตามที่สั่ง แต่เนื่องจากไม่ได้รับเส้นอุด้ง จึงทวงกับพนักงานค่ะ
**มาถึงตอนนี้ขอยืนยันนะคะว่า ใช้คำพูดกับพนักงานท่านนั้นสุภาพและใช้น้ำเสียงปกติค่ะ ไม่ได้วีนเหวี่ยงใด ๆ เลย**
จากนั้นพนักงานคนเดิมก็เสิร์ฟมาให้ถูกต้องพร้อมเส้นอุด้งและขอเก็บค่าอุด้งเป็นเงินสด (39 บาทรวม VAT) ดิฉันก็ยินดีจ่ายค่ะ... การทานอาหารก็ดำเนินไปด้วยดีค่ะ ราบรื่นอาหารอร่อยเหมือนเดิม...
แต่ประเด็นคือพอเรียกเก็บเงินกลับเป็นพนักงานหญิงอีกท่านนำบิลมาให้ตามภาพค่ะ (สังเกตในบิล ดิฉันไม่ได้สั่งว่าแก้วสะอาด ๆ ค่ะ) และที่สำคัญในบิลมีคำว่า "ไอ้ sard เรื่องเยอะ" ทำให้สามีและดิฉันไม่พอใจ
ด้วยอารมณ์เสียและหงุดหงิดสามีเลยลุกไปคุยกับแคชเชียร์ (พนักงานที่รับออเดอร์คนเดิมไปนั่งที่แคชเชียร์) เพื่อหาคนที่เขียนและหาเหตุผลที่เขียนคำเช่นนี้..แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ (ยังยืนยันว่าสามีพูดจาไม่ได้ใช้คำหยาบคายใด ๆ ) สามีจึงขอเรียกพบผู้จัดการ
เมื่อผู้จัดการมา (จริง ๆ ผู้จัดการก็ยืนอยู่ใกล้ ๆ ค่ะ) ดิฉันได้ยื่นบิลให้ผู้จัดการดู แล้วถามว่า "ใครเขียนให้หาตัวมาเลย แล้วเขียนอย่างนี้แปลว่าอะไร?" "ถ้าเป็นพี่พี่จะรู้สึกอย่างไร?"
ผู้จัดการกลับตอบว่า "ถ้าโดนแบบนี้ก็รู้สึกเหมือนกันค่ะ พูดไม่ออก" ทันใดนั้นพนักงานชายที่รับออเดอร์กลับพูดแทรกมาว่า "มีคนรับออเดอร์หลายคนไม่รู้ว่าใครเขียน" ดิฉันตอบว่า "ให้หามาเลยว่าใครเขียน" (จริง ๆ ตอนนั้นก็พอทราบนะคะว่าคนที่รับออเดอร์เป็นคนเขียน เพราะลายมือคล้ายกันค่ะ) ผู้จัดการร้านจึงดึงพนักงานชายคนนั้นไปคุยสองคน...
จากนั้นทั้งคู่ก็เดินกลับมาพร้อมกับพนักงานชายยอมรับว่า.. "ลายมือผมเองครับ แต่ผมเขียนด่าเพื่อน ไม่ได้ด่าพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจเขียนในบิลนี้ แต่หยิบบิลมาเป็นของลูกค้าและมันเขียนติดเพราะมี carbon copy พอดี" (พนักงานชายก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ดีนะคะ ไม่ได้โวยวายใด ๆ ) ดิฉันรู้สึกเหมือนคำแก้ตัวและฟังไม่ขึ้น จึงหันไปถามผู้จัดการว่า "เป็นพี่ พี่ฟังขึ้นป่ะ?" ผู้จัดการกลับก้มหน้าและไม่ตอบใด ๆ ดิฉันรู้สึกว่าไม่ได้รับคำตอบที่ดีเท่าที่ควร จึงถามย้ำว่า "แล้วจะเอาอย่างไร?"
***ยอมรับอีกครั้งค่ะว่าอารมณ์เสียเลยใช้เสียงดังขึ้น แต่ก็ไม่มีการใช้คำพูดหยาบคายใด ๆ ค่ะ**
จากนั้นผู้จัดการก็ดึงพนักงานชายไปคุยหน้าร้านที่ไม่ค่อยมีคน (เพราะบริเวณนั้นคนต่อคิวเยอะค่ะ) เมื่อทั้งสองคนคุยกันเสร็จ พนักงานชายเดินกลับมาพร้อมกับคำขอโทษแบบขอไปทีและไม่มองหน้า "ผมขอโทษ แต่ผมไม่ได้ว่าพี่" จากนั้นพนักงานชายก็เดินออกไปทันที
ต่อมาผู้จัดการก็ขอโทษดิฉันอีกครั้ง พร้อมขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ จากนั้นก็จ่ายบิลปกติแล้วออกจากร้านมา หลังจากนั้น 2-3 ชั่วโมงก็มีบุคคลระดับสูงกว่าผู้จัดการร้านโทรมาขอโทษ ตรงนี้ไม่ขอเล่ารายละเอียดนะคะเพราะไม่ได้เป็นสาระอะไร แต่บุคคลนี้พูดจาดีค่ะ ขอโทษขอโพยก็พอใจในระดับนึงแล้ว และเสนอให้ไปพบที่ร้านเพื่อขอโอกาสขอโทษต่อหน้าและเชิญมาทานอาหารอีก แต่ดิฉันปฏิเสธนะคะว่าคงไม่สะดวกที่จะไป
สรุปทั้งหมดขอเชิญคุณผู้อ่านตัดสินเถอะค่ะ ดิฉันและครอบครัวอาจจะพลาดที่สั่งอาหารนอกเหนือจากมาตรฐานปกติ หรืออาจจะแต่งตัวไม่ดีพอจนทำให้ได้รับคำเขียนที่ไม่เหมาะสมในบิล. ขอบคุณค่ะ"
หลังจากนั้นก็มีสมาชิกเว็บไซต์ดังกล่าวเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งแบ่งออกเป็น2 ฝ่ายขณะที่บางคนมองว่าเจ้าของกระทู้(ลูกค้า) เป็นคนเรื่องมากเอง เพราะสั่งโน่นนี่เอาแต่ใจตนเองมากเกินไป แต่อีกฝ่ายกลับมองว่าถึงอย่างไรก็ตามพนักงานบริการก็ไม่ควรกระทำการเช่นนั้นอยู่ดี
posttoday.com
Facebook
Blogger Comment